การจัดเก็บรายงานเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่เก็บและรักษารายงานเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และระยะเวลาที่สรรพากรกำหนด

รายงานและเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะต้องจัดเก็บ มีดังต่อไปนี้

1. รายงานภาษีขาย เป็นรายงานการบันทึกภาษีขายที่เรียกเก็บจากลูกค้าในแต่ละเดือนภาษี โดยพิจารณาจากวันที่ที่ระบุในสำเนาใบกำกับภาษีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนออกให้แก่ลูกค้า

2. รายงานภาษีซื้อ เป็นรายงานการบันทึกภาษีซื้อ ที่ถูกผู้ประกอบการรายอื่นเรียกเก็บในแต่ละเดือน โดยพิจารณาจากวันที่ที่ระบุในใบกำกับภาษีที่ได้รับ หากไม่ได้นำภาษีซื้อมาลงรายการตามเดือนที่ระบุ เพราะมีเหตุจำเป็นตามที่อธิบดีกำหนด ให้มีสิทธินำไปลงรายงานภาษีซื้อของเดือนหลังจากนั้นได้ แต่ไม่เกิน 6 เดือน นับแต่เดือนถัดจากเดือนที่ออกใบกำกับภาษี

3. รายงานสินค้าและวัตถุดิบ เฉพาะผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้า เป็นรายงานแสดงปริมาณสินค้าและวัตถุดิบที่ผู้ประกอบการมีอยู่ ได้มาและจำหน่ายไป เนื่องจากการขายสินค้าหรือการผลิต

4. ใบกำกับภาษีซื้อ

5. สำเนาใบกำกับภาษีขาย

ระยะเวลาในการจัดเก็บรายงาน แบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้

1. ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดเก็บและรักษารายงานเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ สถานประกอบการที่จัดทำรายงานหรือสถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ต้องจัดทำรายงาน

2. ผู้ประกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ ผู้ประกอบการยังมีหน้าที่ต้องจัดเก็บรายงานเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไป ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับแต่วันเลิกประกอบการ

อ้างอิง: ข้อมูลจากกรมสรรพากร

::มาตรา 87_90:: (rd.go.th)

::0706/4151:: (rd.go.th)