รายได้ที่ได้รับจากการเป็น Youtuber และ Influencer เช่น ได้รับเงินจากการโฆษณา การรีวิวสินค้า เป็นต้น จะต้องนำรายได้มาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไรนั้น จะต้องพิจารณาตามลักษณะของรายได้ที่ได้รับเนื่องจากรายได้แต่ละประเภทจะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้แตกต่างกัน
ทำความเข้าใจรายได้และการหักค่าใช้จ่าย
1. ส่วนแบ่งค่าโฆษณาจากการนำโฆษณามาวางในช่องยูทูป
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8)
หักค่าใช้จ่ายตามจริง
2. การรับจ้างรีวิวสินค้า
2.1 กรณีใช้แรงงานตนเอง ค่าใช้จ่ายน้อย ไม่มีการจ้างลูกจ้าง
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)
หักค่าใช้จ่ายอัตราเหมาได้ 50% แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท
2.2 กรณีมีการจัดโปรดักชั่น ลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ ค่าใช้จ่ายสูง มีการจ้างลูกจ้างหรือทีมงาน
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8)
หักค่าใช้จ่ายตามจริง
3. การรับจ้างโชว์ตัว ออก Event
3.1 กรณีใช้แรงงานตนเอง ค่าใช้จ่ายน้อย ไม่มีการจ้างลูกจ้าง
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)
หักค่าใช้จ่ายอัตราเหมาได้ 50% แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท
3.2 กรณีมีการจัดโปรดักชั่น ลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ ค่าใช้จ่ายสูง มีการจ้างลูกจ้างหรือทีมงาน
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8)
หักค่าใช้จ่ายตามจริง หรือ
หักค่าใช้จ่ายอัตราเหมาได้สำหรับเงินได้ส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท 60% และส่วนที่เกิน 300,000 บาท 40% ทั้งนี้รวมกันไม่เกิน 600,000 บาท (สำหรับกรณีที่เป็นการแสดงของนักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุหรือโทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอาชีพ)
4. ซื้อมา ขายไป
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8)
หักค่าใช้จ่ายตามจริง หรือ
หักค่าใช้จ่ายอัตราเหมาได้ 60%
อ้างอิง: ข้อมูลจากกรมสรรพากร
Comments