สำหรับกิจการรับเหมาก่อสร้าง การรับเงินค่าจ้างแต่ละงวดผู้ว่าจ้างจะหักเงินประกันผลงาน (Retention) ไว้และจะคืนให้เมื่อหมดภาระผูกพันตามสัญญาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการระบุเงื่อนไขในสัญญา กิจการจะต้องรับรู้ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเงินประกันผลงานตามแนวทางปฏิบัติของกรมสรรพากร
เงินประกันผลงาน คือ เงินที่ผู้รับจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้ว่าจ้างตามจำนวนที่ตกลงในสัญญา โดยยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินดังกล่าวจากเงินค่าจ้างในแต่ละงวด เช่น 5% ของเงินค่างวดที่ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายชำระในแต่ละงวด ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันกรณีที่มีความเสียหายหรือข้อผิดพลาดระหว่างระยะเวลาตามสัญญา
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เมื่อผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าจ้างแต่ละงวดให้ผู้รับจ้างโดยหักเงินประกันผลงาน ผู้ว่าจ้างจะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากจำนวนเงินค่าจ้างก่อนหักเงินประกันผลงาน เนื่องจากผู้รับจ้างต้องรับรู้เป็นรายได้เต็มจำนวนมูลค่าของงานที่แล้วเสร็จในแต่ละงวด และ
เมื่อผู้ว่าจ้างจ่ายคืนเงินประกันผลงานให้ ผู้ว่าจ้างไม่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายอีก
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการเกิดขึ้นขณะที่ได้รับเงินค่าจ้างแต่ละงวด ดังนั้นผู้รับจ้างต้องนำเงินประกันผลงานที่ถูกหักจากเงินค่าจ้างแต่ละงวดมารวมเป็นมูลค่าของฐานภาษี และ
เมื่อมีการจ่ายเงินประกันผลงานคืนให้แก่ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างไม่ต้องนำเงินประกันผลงานดังกล่าวมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีก
การบันทึกบัญชี
อ้างอิง: คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 73/2541
Comments