ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF (มาแทน LTF)

ผู้มีเงินได้สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมได้ เมื่อซื้อกองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว (Super Saving Fund) หรือ SSF ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทและสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ตั้งแต่ปี 2563 - 2567 แต่การซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน LTF จะไม่ได้รับการลดหย่อนภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

การลดหย่อนภาษีสำหรับกองทุน SSF

• หักลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ* แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในแต่ละปีภาษี

• ไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุนและไม่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่อง

หมายเหตุ *กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ได้แก่ กองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติหรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ

ระยะเวลาการถือครองและการขายคืนหน่วยลงทุน

• ผู้ซื้อกองทุน SSF ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันซื้อ

• เงินได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน SSF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหากปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

ทั้งนี้สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน SSF ได้ 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2563 - 2567) โดยกระทรวงการคลังจะประเมินผลของมาตรการเพื่อพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

อ้างอิง: ข่าวกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 146/2562