top of page
Writer's pictureTwenty Four Audit And Accounting

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ภ.ง.ด.51

Updated: Feb 20, 2021

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี 2 รอบคือ รอบครึ่งปี (ตามแบบ ภ.ง.ด.51) และรอบสิ้นปี (ตามแบบ ภ.ง.ด.50)


การเสียภาษีตอนครึ่งปี คือ กิจการสามารถนำภาษีที่จ่ายชำระในรอบครึ่งปีนี้ไปหักออกจากภาษีที่จะต้องชำระตอนสิ้นรอบได้


ผู้มีหน้าที่เสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.51) มีดังนี้

  • กลุ่มที่ 1 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจซื้อมาขายไป ธุรกิจผลิต ดังนั้น ธุรกิจ SMEs ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มนี้

  • กลุ่มที่ 2 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร หรือบริษัทเงินทุน


การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี มี 2 วิธี ดังนี้

  • วิธีที่ 1 ประมาณการกำไรสุทธิ ใช้กับบริษัทในกลุ่มที่ 1

กิจการต้องประมาณการกำไรสุทธิ คือ ประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิของกิจการสำหรับรอบปีบัญชี และนำยอดกึ่งหนึ่งของตัวเลขประมาณการทั้งปีมาคูณอัตราภาษีเพื่อจ่ายชำระ เช่น

ประมาณการกำไรสุทธิทั้งรอบระยะเวลาบัญชี = 5,000,000 บาท

กึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิทั้งรอบระยะเวลาบัญชี = 2,500,000 บาท

ดังนั้น กิจการจะเสียภาษีจาก 2,500,000 * อัตราภาษี

  • วิธีที่ 2 กำไรสุทธิที่เกิดจริงของ 6 เดือนแรก ใช้กับบริษัทในกลุ่มที่ 2


กำหนดการยื่นแบบและชำระ

  • กิจการต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 และชำระภาษีภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน

  • ทั้งนี้ปีแรกที่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้งหากรอบระยะเวลาบัญชีน้อยกว่า 12 เดือน ถือว่าได้รับยกเว้นไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 ในปีแรก


ข้อควรระวัง

  • ในการประมาณการกำไรสุทธินั้น หากกิจการประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกิน 25% ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันควร กิจการจะต้องเสียเงินเพิ่มอีก 20% ของภาษีที่ชำระขาดไป


นอกจากผู้ประกอบการต้องระวังไม่ให้ยื่นล่าช้าแล้ว ผู้ประกอบการควรสอบทานการประมาณการตัวเลขกำไรสุทธิด้วยเพราะหากคำนวณผิดพลาดไปโดยไม่มีเหตุอันควรแล้วก็จะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย


อ้างอิง: กรมสรรพากร

Comments


bottom of page